สำหรับผู้ที่หลงใหลในไวน์ อาจเคยได้ยินคำว่า “ขาไวน์” หรือ “Wine Legs” กันมาบ้างเวลาไปร่วมงานชิมไวน์ หรือฟังซอมเมอลิเย่ร์พูดถึงคุณลักษณะของไวน์ แต่อาจยังไม่แน่ใจว่าคำนี้หมายถึงอะไร จริง ๆ แล้ว “ขาไวน์” ไม่ได้เกี่ยวกับขวดไวน์หรือแก้วไวน์ แต่เป็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นหลังจากที่คุณหมุนไวน์ในแก้วแล้ววางนิ่ง ๆ
ขาไวน์คือเส้นหยดของไวน์ที่ไหลย้อนกลับลงมาในแก้วอย่างช้า ๆ บนผิวด้านในของแก้วไวน์ หลังจากที่คุณหมุนไวน์แล้วหยุด เส้นเหล่านี้จะค่อย ๆ เคลื่อนตัวลงราวกับเป็นหยดน้ำที่มี “ขา” จึงเกิดชื่อเรียกที่น่ารักว่า “ขาไวน์” นั่นเอง
หลายคนเชื่อว่าขาไวน์เป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของไวน์ แต่ในความจริงแล้ว ขาไวน์บอกถึงระดับของแอลกอฮอล์และน้ำตาลในไวน์มากกว่า ยิ่งขาไวน์ยาว หนา หรือเคลื่อนตัวช้า นั่นอาจหมายถึงไวน์ที่มีแอลกอฮอล์สูง หรือมีความหวานอยู่มาก เพราะแอลกอฮอล์และน้ำตาลทำให้ของเหลวมีความหนืดสูงขึ้น
ปรากฏการณ์นี้ในทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า “Marangoni Effect” ซึ่งเกิดจากความแตกต่างของแรงตึงผิวระหว่างแอลกอฮอล์กับน้ำในไวน์ แอลกอฮอล์ระเหยเร็วกว่า เมื่อระเหยไปไวน์ที่เหลืออยู่จะมีความหนืดมากขึ้น ทำให้เกิดการไหลลงเป็นเส้นช้า ๆ เหมือน “ขา”
แม้ขาไวน์จะไม่ได้เป็นดัชนีชี้วัดว่ารสชาติดีหรือไม่ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของไวน์ที่ทำให้การดื่มมีมิติยิ่งขึ้น การสังเกตขาไวน์ช่วยเพิ่มอรรถรสและความเข้าใจในสิ่งที่คุณกำลังดื่มได้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้และฝึกแยกแยะลักษณะของไวน์ชนิดต่าง ๆ ดังนั้น ครั้งหน้าที่คุณหมุนไวน์ในแก้ว ลองสังเกตขาไวน์ดูสักนิด อาจไม่ได้ต้องการคำตอบทางวิทยาศาสตร์มากนัก แค่ปล่อยใจไปกับความงามของหยดไวน์ที่ค่อย ๆ ไหลลงมา ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในการดื่มไวน์ที่น่าจดจำแล้ว