Customize Consent Preferences

We use cookies to help you navigate efficiently and perform certain functions. You will find detailed information about all cookies under each consent category below.

The cookies that are categorized as "Necessary" are stored on your browser as they are essential for enabling the basic functionalities of the site. ... 

Always Active

Necessary cookies are required to enable the basic features of this site, such as providing secure log-in or adjusting your consent preferences. These cookies do not store any personally identifiable data.

No cookies to display.

Functional cookies help perform certain functionalities like sharing the content of the website on social media platforms, collecting feedback, and other third-party features.

No cookies to display.

Analytical cookies are used to understand how visitors interact with the website. These cookies help provide information on metrics such as the number of visitors, bounce rate, traffic source, etc.

No cookies to display.

Performance cookies are used to understand and analyze the key performance indexes of the website which helps in delivering a better user experience for the visitors.

No cookies to display.

Advertisement cookies are used to provide visitors with customized advertisements based on the pages you visited previously and to analyze the effectiveness of the ad campaigns.

No cookies to display.

วิธีการกินไวน์อย่างมีรสนิยม เพื่อดื่มด่ำทุกสัมผัส

การกินไวน์ ไม่ใช่แค่การยกแก้วแล้วดื่มลงไป แต่คือศิลปะแห่งการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการสัมผัสรสชาติ กลิ่น และบรรยากาศที่ไวน์มอบให้ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการกินไวน์อย่างถูกวิธีนั้น ช่วยให้เราได้สัมผัสรสชาติและกลิ่นที่ซับซ้อนของไวน์ได้เต็มที่ยิ่งขึ้น

เริ่มต้นจาก การสังเกตสีของไวน์ ก่อนการดื่ม ควรยกแก้วไวน์ขึ้นในระดับสายตา หรือตั้งบนพื้นสีขาว แล้วดูเฉดสีและความใสของไวน์ สีของไวน์สามารถบอกอายุและลักษณะของไวน์ได้ เช่น ไวน์แดงที่มีสีเข้มมักจะมีรสชาติเข้มข้นกว่า หรือไวน์ขาวที่มีสีทองเล็กน้อยอาจมีอายุและกลิ่นที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

ขั้นต่อมาคือ การสูดกลิ่น (Nose) ให้หมุนแก้วไวน์เบา ๆ เพื่อให้กลิ่นของไวน์ระเหยขึ้น แล้วนำจมูกเข้าใกล้แก้วสูดกลิ่นอย่างช้า ๆ กลิ่นที่ได้อาจเป็นกลิ่นผลไม้ ดอกไม้ เครื่องเทศ หรือแม้แต่กลิ่นไม้จากถังบ่ม กลิ่นเหล่านี้คือส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในการกินไวน์

เมื่อสัมผัสกลิ่นแล้ว จึงเข้าสู่ ขั้นตอนการชิม (Tasting) ให้จิบไวน์เล็กน้อยแล้วกลั้วในปากเบา ๆ เพื่อให้ไวน์สัมผัสทุกส่วนของลิ้น จะช่วยให้คุณแยกแยะรสชาติเปรี้ยว หวาน ฝาด หรือขม ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังสามารถรับรู้ถึงเนื้อสัมผัส (Body) และความยาวของรสชาติหลังการกลืน (Finish) ซึ่งเป็นเสน่ห์สำคัญของไวน์แต่ละขวด

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ อุณหภูมิของไวน์ ที่มีผลต่อรสชาติอย่างมาก ไวน์แดงควรดื่มที่อุณหภูมิห้อง (ประมาณ 15-18°C) ส่วนไวน์ขาวหรือไวน์สปาร์กลิงควรแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ การเก็บรักษาไวน์ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น หรือการจัดวางขวดไวน์

และนี่คือเหตุผลที่ LEO Wine Storage นำเสนอทางเลือกสำหรับนักดื่มไวน์ที่ต้องการดูแลไวน์อย่างมืออาชีพ เรามีบริการห้องเก็บไวน์ให้เช่ามาตรฐานสากล (World-Class Wine Storage) แบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าคุณจะเก็บไวน์เพื่อสะสม หรือเพื่อดื่มในโอกาสพิเศษ ก็มั่นใจได้ว่าไวน์ของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดสุดท้าย การกินไวน์จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นหากมี อาหารที่เข้าคู่ (Food Pairing) เพราะไวน์แต่ละประเภทจะเสริมรสชาติของอาหารที่ต่างกัน เช่น ไวน์แดงเหมาะกับเนื้อวัวหรือเนื้อแกะ ไวน์ขาวเข้ากันดีกับปลาและอาหารทะเล หรือจะเลือกจับคู่กับชีสที่มีกลิ่นเฉพาะตัวก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้การดื่มด่ำไวน์กลมกล่อมยิ่งกว่าเดิม

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *